จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสวิด 19 ในปัจจุบันทำให้ประชาชนคนไทยหลายคนต้องประสบกับปัญหาต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาตกงาน ปิดกิจการชั่วคราว ส่งผลให้หลายคนขาดรายได้ รายได้ไม่พอสำหรับใช้จ่ายในแต่ละวัน คลายล็อกดาวน์ อย่างที่คนไทยหลายคนทราบประเทศไทยนั้นเป็นประเทศค่าครองชีพค่อนข้างสูงจึงทำให้หลายคนประสบกับปัญหาบริหารค่าใช้จ่ายให้พอใช้ในแต่ละเดือน ยิ่งเจอกับปัญหาวิกฤตของโรคระบาดทำให้หลายคนรายได้ลดน้อยลง เงินใช้จ่ายไม่เพียงพอ รัฐบาลไทยจึงได้มีการปรับมาตรการต่างๆเพื่อให้ประชาชนคนไทยได้มีรายรับมากยิ่งขึ้น เช่นการจัดโครงการเงินเยียวยาเพื่อให้ประชาชนได้มีเงินพอใช้จ่ายในแต่ละเดือน ปรับมาตรการคลายล็อกดาวน์เพื่อปรับเวลาเคอร์ฟิวให้ประชาชนได้ทำการค้าขายได้มากขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อในเขตพื้นที่สีแดงเข้มก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อลดน้อยลง รัฐบาลจึงได้ประกาศคลายล้อกดาวน์หลายๆกิจการเพื่อรีบฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตามประชาชนคนไทยทุกคนยังต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ สวมหน้ากากก่อนออกจากบ้าน ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง เว้นระยะห่างระหว่างกัน ไม่ไปในสถานที่แออัดเพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19
แนวทางในการป้องกันโรคไวรัสโควิด 19
- สวมหน้าอนามัยทุกครั้งเมื่ออกจากบ้าน หลักเลี่ยงการสัมผัสบริเวณหน้ากากอนามัย
- หลีกเหลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณใบหน้า ตา ปาก จมูกโดยไม่จำเป็น
- ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งเมื่อสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ล้างมือบ่อยๆเมื่อจำเป็นต้องไปในพื้นที่สาธารณะ
- ไวรัสวิด 19 ออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้น หากออกนอกบ้านให้เว้นระยะระจากผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร
- หลีกเลี่ยงการใช้รถสาธารณะและหลีกเลี่ยงการเข้าใปในพื้นที่แออัด เพื่อลดความเสี่ยงในการรับเชื้อ
- ดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ หาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น การออกกำลังกาย ดูหนัง ฟังเพลง
- หมั่นสังเกตตนเองอยู่เสมอ หากมีอาการ ไข้ ไอแห้ง หรืออาการเสี่ยงให้แยกตัวออกจากครอบครัวทันที เพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อ
มาตรการคลายล็อกดาวน์
จากสถานการณ์การแพร่เชื้อโควิด 19 ในปัจจุบันกับเข้าสู่สถานการณ์ปกติได้มียอดผู้ติดเชื้อลดน้อยลงรัฐบาลจึงได้มีการประกาศคลายล็อกดาวน์และปรับมาตรการต่างๆเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ได้มีการปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงและเข้มงวด ปรับเวลาเคอร์ฟิวห้ามออกนอกเคหสถาน โดยได้มีการปรับรายละเอียดต่างๆ แต่ยังต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ เช่น สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน
- ปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 23 จังหวัด
- ปรับลดพื้นที่สีส้มหรือพื้นที่ควบคุมเหลือ 24 จังหวัด
- ปรับลดเวลาเคอร์ฟิวห้ามออกนแกเคหสถาน 23:00 – 03:00 น.
- ปรับเวลาเปิด/ปิดกิจการต่างตากำหนด ในเวลา 22:00 น.
- จัดการประชุมและจัดงานตามประเพณีนิยมได้ในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมหรือ สล็อต สถานที่จัดนิทรรศการ และโรงแรมได้
- สถานดูแลผู้สูงอายุให้เปิดดำเนินการแบบรับ – ได้

ขอบคุณรูปภาพจาก google
มาตรการป้องกันสำหรับสถานที่ต่างๆ
1) มาตรการป้องกันโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภท
- ในขณะนี้ประเทศไทยยังคงใช้มาตรการการเรียนการสอนแบบออนไลน์ 100% เพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อไวรัสวิด 19 ทางรัฐบาลได้มีการปรับมาตรการคลายล็อกดาวน์โดยได้มีการรปรับให้สามารถใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอร การสอบ การฝึกอบรม
- หากต้องทำกิจกรรมใดๆที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ต้องให้ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการหรือหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รับผิดชอบ ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะโรคติดต่อจังหวัด
- พิจารณาตามความจำเป็นและความเหมาะสมของสภาพพื้นที่และสถาการณ์ในพื้นที่รับผิดชอบ
- มาตรการการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด 19ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้พิจารณา
2) มาตรการการป้องกันสถานรับเลี้ยงเด็ก
- มาตรการป้องกันสถานที่ให้การดูแลหรือสถานสงเคราะห์อื่นๆ สามารถทำการการเปิดดำเนินการได้โดยต้องผ่านการพิจารณาอนุญาติในการใช้ใช้สถานที่จากคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครฯ หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
- พิจารณาตามความเหมาะสมของสถาบันโรคที่นั้นๆ
- ต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด
3) มาตรการการป้องร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม
- คลายล็อกดาวน์ สามารถเปิดให้บริการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกิน 22:00 น.
- ห้ามบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน
- จำกัดจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน ไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนที่เว้น เว้นระยะห่างระหว่างกัน
- ร้านอาหารขนาดเล็กให้มีจำนวนผู้นั่งบริโภคไม่เกินร้อยละ 75 ของจำนวนที่นั่งปกติ
- ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มสามารถให้มีการแสดงดนตรีหรือการแสดงอื่นๆได้ไม่เกิน 5 คน
- ต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโดยการเว้นระยะห่างและงดการติดต่อสัมผัสกับผู้บริการและนักดนตรี
- สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาหากต้องไปในสถานที่แออัด
4) มาตรการการป้องกันสำหรับร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด
- ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติจนถึงเวลา 22:00 น. ตามเวลาคลายล็อกดาวน์
- จำกัดเวลาสำหรับร้านสะดวกซื้อ ให้ปิดการให้บริการในระหว่างเวลา 22:00 – 03:00 น.
- เว้นระยะห่างระหว่างกัน สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ต้องเข้าใช้บริการภายในร้าน
- ปฏิบัติตามข้อบังคับกระทรวงสาธารณะสุขอย่างเคร่งครัด
- แต่ละร้านสามารถกำนกเงื่อนไขสำหรับผู้มาใช้บริการที่แสดงหลักการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ตามข้อบังคับของกระทรวงสาธารณะสุข
- สามารถเช้าใช้บริการร้านสะดวกซื้อได้ร้อยละ 75 ของผู้มาใช้บริการ