สถานกาณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในปัจจุบันถือเป็นสถานการณ์ขั้นวิกฤตที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทางกรมอนามัยโลก ( WHO ) จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกมีจำนวนมากจึงได้มีการคิดค้นวิธีป้องการแพร่ระบาดเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ กรมอนามัยโลกจึงได้มีการคิดค้นวัคซีนที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ทั้งยังกำนดข้อปฏิบัติตามมาตรตราการป้องกันการรับมือ ลดอัตราการรับเชื้อจากการสัมผัส เช่น การเว้นระยะห่างระหว่างกัน การสวมหน้ากากอนามัย และการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การฉีดวัคซีนโควิดก็เป็นอีหนึ่งวิธีที่สามารถป้องกันการติดเชื้อและป้องกันการแพร่เชื้อได้ วัคซีนป้องกันโควิดสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 60-90% ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน แต่คุณสมบัติหลักๆของวัคซีนนั้นช่วยลดความรุนแรงของการป่วยหลังการติดเชื้อซึ่งเป็นข้อดีที่เราสามารถรักษาอาการด้วยตนเองได้ แต่ต้องขอคำแนะนำและปรึกษาหมอผู้เชี่ยวชาญอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามหากได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วเพื่อให้การรับวัคซีนได้ประโยชน์สูงสุดยังต้องปฏิบัติตามข้อบังคับอย่างเคร่งครัดเพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการรับเชื้อ และการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
อย่างที่ทราบกันว่าวัคซีนแต่ละยี่ห้อนั้นมีประสิทธิภาพในการป้องไม่เท่ากัน ดังนั้น จึงต้องรักษาร่างกายของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้การรับวัคซีนได้ประโยชน์สูงสุด องค์ประกอบสำคัญเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้แก่ร่างกาย ดังนั้น จึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด หน้าที่หลักของวัคซีนป้องกันโควิดโดยทั่วไปแล้ว วัคซีนจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของภูมิคุ้มกันในร่างกายและเข้าไปทำลายสิ่งแปลกปลอมจากเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสชนิดนี้ที่เข้าสู่ร่างกาย การฉีดวัคซีนโควิด walk inจึงถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ช่วยลดอัตราการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ วัคซีนที่มีประสิทธิภาพแต่ละชนิดคือ Pfizer , Moderna , Johnson and Johnson และ AstraZeneca
การฉีดวัคซีนโควิดจึงอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการลดโอกาสเสี่ยงในติดเชื้อ อย่างที่หลายคนทราบวัคซีนแต่ละชนิดมีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน ผลข้างเคียงและภูมิคุ้มกันหลังฉีดจะขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของแต่ละคน ควรเฝ้าสังเกตอาการตนเองให้แน่ใจ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวเพื่อป้องกันอันตรายจากผลข้างเคียงของวัคซีน
หลังฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้วให้ท่านสังเกตอาการของตน ณ จุดรับวัคซีน 30 นาที สังเกตความผิดปกติของร่างกาย หากเกิดอาการผิดปกติให้รีบแจ้งพยาบาลทันที ผลข้างเคียงทั่วไปจะมีไข้ต่ำ ปวดเหมื่อยตามกล้ามเนื้อและข้อ คันหรือช้ำบริเวณฉีดวัคซีน รู้สึกไม่สบายตัว เมื่อกลับถึงบ้านแล้วยังต้องสังเกตอาการตนเองให้แน่ชัด โดยต้องสังเกตอาการผลข้างเคียงของตนเองต่ออีก 48-72 ชั่วโมงหากไม่พบอาหารผิดปกติ หรือมีกาหารไม่รุนแรง เช่น มีไข้ หรือ ปวดเมื่อยตามตัวท่านสามารถรับประทานยาพาราเซตามอลได้ ดื่มน้ำให้เยอะๆ พักผ่อนให้เพียงพอ หรือหากพบอาการผิดปกติ เช่น ปากเบี้ยว ชักหมดสติ ชาครึ่งซีก แขนขาอ่อนแรงให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แม้จะฉีดวัคซีนโควิด หลังติดเชื้อเรียบร้อยแล้วแต่ยังต้องปฏิบัติตามมาตรตราการป้องกันต่ออย่างเคร่งครัด เว้นระยะห่างระหว่างกัน ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ดูแลตนเองอยู่เสมอเพื่อลดโอกาสเสี่ยงและลดอัตราการแพร่เชื้อไวรัส